ความสำเร็จของนักมวยไทยบนสังเวียน MMA

ไม่ว่าจะทำอะไร ทุกคนย่อมต้องการความสำเร็จกันทั้งนั้น นี่คือสัจธรรมอย่างหนึ่ง นักกีฬาก็ไม่ต่างกันเพราะความสำเร็จที่ได้มานั้นสามารถนำพาชีวิตของตัวเองรวมถึงคนในครอบครัวได้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะนักกีฬามวยไทย แต่ที่ผ่านมามักจะเป็นความสำเร็จที่สร้างความสุขเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีความมั่นคงอย่างแท้จริง นักมวยไทยหลาย ๆ ท่านจึงผันตัวไปประกอบอาชีพอื่น บางท่านจึงผันตัวมาเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานหรือ MMA จากการที่มีพื้นฐานด้านมวยไทยอยู่แล้วจึงสามารถต่อยอดการฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จได้กลายเป็นแชมป์บนสังเวียนนักสู้ MMA

อย่างเช่น เดชดำรง ส.อำนวยศิริโชคและสะเก็ดดาว เพชรพญาไท ทั้งสองท่านเป็นนักชกมากฝีมือตั้งแต่ครั้งที่เคยเป็นนักกีฬามวยไทยจนได้มาคว้าแชมป์ในศึก One Championship เรียกว่าด้วยพื้นฐานการต่อสู้ที่ดี อาศัยความมุ่งมั่นขยันฝึกซ้อมและในที่สุดก็ได้ก้าวขึ้นมาสู่มาตรฐานของคำว่าแชมป์เปี้ยนโลก

ทำไม…มวยไทยจึงเป็นพื้นฐานที่ดีในการก้าวเข้าสู่สังเวียน MMA

  1. มวยไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยท่วงท่าที่สวยงาม ตั้งแต่พิธีไหว้ครูที่ชาวต่างชาติได้เห็นท่ารำแล้วมักจะหลงเสน่ห์ได้อย่างง่ายดายและอยากเข้ามาสัมผัสวิถีอย่างมวยไทย นอกจากท่ารำไหว้ครูแล้วยังมีท่าแม่ไม้มวยไทยที่สามารถจู่โจมได้อย่างรุนแรงเฉียบขาดเช่นกัน
  2. สามารถใช้อวัยวะในการออกอาวุธเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้และเพื่อป้องกันตนเองได้ครบทุกส่วนทั้ง หมัด เท้า เข่าและศอก มีพิษสงรอบด้าน ถ้าหากนักกีฬาคนไหนสามารถออกอาวุธและใช้ได้อย่างชำนาญย่อมเป็นที่น่าเกรงขามสำหรับคู่ต่อสู้อย่างมากทีเดียว
  3. สามารถพัฒนาในการควบคุมอารมณ์และจิตใจได้ดี เพราะครูฝึกจะไม้ได้สอนเพียงเรื่องการออกอาวุธอย่างไรให้ชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นความสำคัญตั้งแต่เรื่องความมีระเบียบวินัยตรงต่อเวลา การมีสัมมาคารวะ รู้แพ้ รู้ชนะและรู้จักให้อภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานด้านวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยซึ่งได้สอดแทรกเข้ามาในศิลปะมวยไทยด้วย จึงกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ผู้ใดพบเห็นเป็นต้องชม

คุณค่าของกีฬามวยไทย ดังไปไกลถึงสนาม One Championship

คุณค่าที่มีในศิลปะการต่อสู้อย่างมวยไทยได้ดังไปไกลถึงสนามประลองฝีมือศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA อย่างสนาม One Championship และสามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้ด้วยการใช้แม่ไม้มวยไทยเป็นอาวุธหลักในการโจมตีคู่ต่อสู้ได้อย่างเฉียบขาด จึงพิสูจน์ได้อย่างน่าภาคภูมิใจว่า มวยไทยไม่ได้เป็นรองศิลปะการต่อสู้ประเภทใดเลย ควรช่วยกันอนุรักษ์และเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รู้จัก จนแม้กระทั่งชาวต่างชาติเองยังต้องให้ความสนใจที่จะศึกษาเรียนรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นรูปแบบการต่อสู้ของตัวเอง

นอกจากความน่าภาคภูมิใจแล้ว ยังสามารถใช้เป็นใบเบิกทางในการสร้างชีวิตที่ดีได้ ไม่ใช่เป็นนักมวยดังแต่ใช้ชีวิตยังมีความลำบากแร้นแค้น เพราะเมื่อได้รับชัยชนะก็จะได้รับเงินรางวัลซึ่งมากเพียงพอที่จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเองและครอบครัวให้อยู่อย่างสุขสบายขึ้นได้

สุดยอดแห่งคำว่าชัยชนะบนสังเวียน UFC กับเจ้าของฉายา “ไอ้แมงมุม”

ในสังเวียนของกีฬาการต่อสู้ย่อมต้องการคำว่าชัยชนะเสมอ การต่อสู้ในศึก UFC ที่เป็นสังเวียนการแข่งขันของมวย MMA ก็เช่นกัน นักสู้ทุกคนที่จะก้าวขึ้นมาบนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ เพราะต้องผ่านสนามของความเหน็ดเหนื่อยอดทนตลอดจนการฝึกฝนอย่างหนัก นอกจากนี้ยังต้องผ่านทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและคราบน้ำตาอีกด้วย เนื่องจากกีฬาการต่อสู้ย่อมมีทั้งแพ้และชนะ เมื่อมีโอกาสได้ก้าวขึ้นสังเวียนอันทรงเกียรติระดับโลกอย่าง UFC ก็ย่อมต้องรู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่สุด ถ้าได้รับชัยชนะก็เหมือนเป็นรางวัลในชีวิต แต่จะมีนักกีฬาสักกี่คนที่สามารถครองเข็มขัดแชมป์ได้ติดต่อกันหลายสมัยอย่างเจ้าของฉายา “ไอ้แมงมุม” หรือ Anderson Silva นักชกชาวบราซิเลียน

เทคนิคการต่อสู้ในรูปแบบของ Anderson Silva จนต้องยกให้กลายเป็นตำนาน MMA

แน่นอนว่าการครองแชมป์ได้ยาวนานหลายปีและยังไม่มีใครสามารถทำได้ ตั้งแต่ปีค.ศ. 2006-2013 ของ Anderson Silva จะต้องมีเทคนิคการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวการต่อสู้ต้องใช้ได้อย่างชำนาญชั้นครู และหนึ่งในท่วงท่าของการต่อสู้ที่เขาได้ใช้บนสังเวียนระดับโลกนั้นก็คือ แม่ไม้มวยไทย ซึ่งสามารถใช้อาวุธได้อย่างครบทุกรูปแบบทั้ง มือ ศอก เข่าและเท้า รวมถึงสามารถเข้ากอดรัดคู่ต่อสู้ได้อีกด้วย Silva นำมาประยุกต์ใช้ในการสู้ศึก UFC ได้อย่างชำนาญจนคนไทยเองก็ยอมรับว่าเป็นสุดยอดนักมวยที่ใช้มวยไทยได้ดีเยี่ยม ประกอบกับความแข็งแรงของร่างกายที่พร้อมทั้งการตั้งรับและการเข้าโจมตีคู่ต่อสู้จึงสามารถเอาชนะได้แบบที่คู่ต่อสู้ต้องยอมยกธงขาว

Anderson Silva หรือ ไอ้แมงมุม นั้นยังมีความชำนาญในศิลปะการต่อสู้ตามแบบฉบับของชาวบราซิลขนานแท้อย่าง บราซิลเลียนยิวยิตสู (brazilian-jiu-jitsu) หรือเรียกว่า Bjj ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของกีฬาต่อสู้แบบผสมผสาน MMAโดยอาศัยการล็อกคู่ต่อสู้ไม่ให้ทรงตัวได้ การใช้การต่อสู้ Bjj ไม่ได้อาศัยความแข็งแรงของร่างกายแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ต้องอาศัยเทคนิคอันชาญฉลาดเพื่อสามารถล็อกและล้มคู่ต่อสู้ให้ได้ ผู้ชนะแทบจะไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเลยก็ยังได้ ในปัจจุบัน Bjj ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการยอมรับว่าทุกเพศทุกวัยสามารถฝึกฝนได้

ตำนาน ไอ้แมงมุม สู่แรงบันดาลใจของนักสู้รุ่นใหม่

ถึงแม้ว่า Anderson Silva จะเสียเข็มขัดแชมป์ไปแล้วแต่ก็ยังถือว่าเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่หน้าหนึ่งของ MMAไปตลอดกาลและยังไม่มีใครสร้างตำนานหน้าใหม่ได้เท่าหรือดีกว่า จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักสู้รุ่นใหม่หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ไอดอล ของรุ่นน้องนั่นเอง ทำให้เด็กรุ่นใหม่มีกำลังใจและมีความพยายามในการฝึกซ้อมโดยมีเวที UFC เป็นเป้าหมาย MMA ก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ผู้คนนิยมติดตามมากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนตัวของเขาเองก็ยังคงโลดแล่นในวงการ MMA มาจนถึงปัจจุบันนี้ และยังเป็นที่เคารพนับถือทั้งในฐานะรุ่นพี่และฐานะครูมวยอีกด้วย

อิทธิพลของ MMA หรือ Mixed Martial Art ในประเทศไทย

ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA หรือ Mixed Martial Art ในช่วงยุคแรก ๆ นั้นเป็นที่รู้จักในด้านการต่อสู้ที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนงเข้ามาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย มวยสากล บราซิลเลี่ยน ยูยิตสุ ยูโด มวยปล้ำและอื่น ๆ ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว มีเพียงกติกาแพ้คัดออก การแพ้-ชนะขึ้นอยู่กับการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ น็อกคู่ต่อสู้หรือกรรมการสั่งยุติเท่านั้นในรายการแข่งชื่อดังอย่าง UFC (Ultimate Fighting Championship) ในเวลาต่อมาเมื่อได้รับความนิยมมากขึ้นจึงพัฒนาและกำหนดกติกาให้เป็นสากลมากขึ้น

ในประเทศไทยเองได้เริ่มให้ความสนใจกับกีฬาชนิดนี้มากขึ้นตามกระแสโลกเช่นกัน โดยมีผู้สนับสนุนเป็นคนไทยและได้พยายามผลักดันให้นักกีฬาต่อสู้ของไทยรวมถึงนักกีฬาที่มีความสนใจทั่วภูมิภาคเอเชียได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสศิลปะการต่อสู้ MMA มากขึ้น เพราะความสามารถของคนเอเชียเองไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติตะวันตก นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำศิลปะการต่อสู้ของภูมิภาคเอเชียไปเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รู้จักมากขึ้นอีกด้วย และเพราะความทันสมัยของเทคโนโลยีอย่างโซเชียลมีเดียด้านต่าง ๆ สามารถรับชมได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ด้านเกมการแข่งขันเองก็มีความน่าสนใจจึงทำให้ MMA เข้ามาอิทธิพลในกลุ่มคนไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไม…ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA หรือ มวยกรง จึงฮอตฮิตทั่วโลก

  • ในปัจจุบันผู้คนชอบความแปลกใหม่และท้าทายความสามารถ โดย MMA มีการถ่ายทอดความสามารถของนักกีฬาต่อสู้ ซึ่งไม่มีข้อจำกัดของการใช้อาวุธ เพราะสามารถนำมาใช้ได้แบบผสมผสานภายใต้กติกาที่มีไว้เพื่อกำหนดแนวทางและเซฟนักกีฬาในเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น
  • ความสนุกสนานเร้าใจในเกมการแข่งขันที่คาดเดาได้ยาก ผู้ชมจะรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นไปกับเกมทุกครั้งทุกยกเมื่อได้ชมแล้วอาจจะลืมทั้งความเครียดและความทุกข์ที่มีได้เลยทีเดียว
  • สามารถรับชมได้สะดวก ทั้งที่ผ่านรายการโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังสามารถรับชมย้อนหลังได้อีกด้วย เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากระบบอินเทอร์เน็ตจึงสามารถออนไลน์ได้ทุกที่ทั่วโลก

โอกาสที่มี ของนักกีฬาไทยและนักกีฬาภูมิภาคเอเชียสู่สายตาคนทั่วโลก

ในปัจจุบันถือว่ามีโอกาสสูงเพราะมีผู้ให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยผ่านรายการชื่อดัง One Championship ซึ่งเป็นรายการที่สร้างขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสในการค้นหา ฮีโร่แห่งภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะ แล้วผู้ชมก็ให้การยอมรับและชื่นชอบ จึงกลายเป็นรายดังเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะว่ารูปร่างสัดส่วนของชาวเอเชียมักจะเป็นคนตัวเล็ก ไม่รูปร่างสูงใหญ่อย่างชาวตะวันตก ในสังเวียนใหญ่ระดับโลกอย่าง UFC จึงไม่ค่อยมีนักกีฬาที่มาจากฝั่งทวีปเอเชียมากนัก และที่ได้รับแชมป์โลกก็ยังไม่มีชื่อชาวเอเชียเช่นกัน

ทางผู้จัดรายการ One Championship ได้เล็งเห็นถึงความสามารถของชาวเอเชียและไม่อยากให้ถูกจำกัดจึงเปิดโอกาสให้ได้แสดงความสามารถ ซึ่งเรียกได้ว่าผู้ชมเองก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดีทีเดียว อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นในหัวใจนักสู้ชาวเอเชียอย่างเต็มร้อยว่าสามารถก้าวไปถึงระดับโลกได้ไม่แพ้ชาติใดเช่นกัน

การคว้าแชมป์บนสังเวียน UFC ดีกรียอดนักสู้ระดับโลก

สังเวียนของการท่าประลองฝีมือการต่อสู้ที่เรียกว่า ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ Mixed Martial Arts (MMA) กำลังได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วโลก ในการคว้าแชมป์บนสังเวียนใหญ่อย่าง UFC ก็ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่มาจากปัจจัยหลายอย่างที่จะสามารถช่วยผลักดันให้ก้าวไปถึงคำว่าแชมป์ โดยนักสู้ระดับโลกแทบทุกท่านไม่ได้มีเบื้องหลังของการฝึกซ้อมที่สวยหรูดูดี เพราะความสำเร็จที่งดงามนั้นต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่มี หลาย ๆ ครั้งอาจจะต้องแลกมาด้วยคราบน้ำตา นั้นก็ถือเป็นบทพิสูจน์หนึ่งก่อนจะได้ชื่นชมกับความสำเร็จ

Conor McGregor เจ้าของเข็มขัดแชมป์ UFC (Ultimate Fighting Championship) ที่ ณ เวลานี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเขาเหมาะสมกับดีกรีนักสู้ระดับโลก มีค่าตัวสูงถึงหลักร้อยล้าน จากการเคยเป็นคนที่เคยใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่เขาทำอย่างไรถึงได้เป็นถึงแชมป์โลก MMA และทำสถิติเป็นประวัติศาสตร์อีกด้วย ด้วยการครองแชมป์เข็มขัดนักสู้ถึง 2 รุ่นและยังไม่มีใครสามารถทำได้แบบเขา

กว่าจะมาเป็นแชมป์ UFC ต้องมีดีอะไรบ้าง?

กว่าจะได้เข็มขัดแชมป์ UFC ต้องมีดีอะไรบ้าง…ซึ่งเป็นสิ่งที่นักกีฬาทุกประเภทต้องมีเช่นกัน แต่อาจจะแตกต่างตรงที่เป็นประเภทการต่อสู้และมีการปะทะ จึงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้ามาฝึกฝนได้ ถ้าไม่มุ่งมั่นและตั้งใจจริง

  • การมีจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพราะในเวลาของการฝึกซ้อมต้องมีบาดเจ็บบ้าง หรือมีปัญหามาให้แก้อยู่ตลอดเวลา อาจจะต้องสวมจิตวิญญาณของนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ เข้าไปด้วย ถึงจะทำให้เดินทางถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งเอาไว้
  • ความขยันหมั่นฝึกซ้อม ความมีระเบียบและวินัยตามแบบอย่างของนักกีฬาที่ดี จะสามารถทำให้เพิ่มความอึดและได้รับทักษะต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ทั้งจากโค้ชและเพื่อนนักกีฬาด้วยกันเอง
  • การเลือกรับประทานอาหารที่สามารถให้คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับการเป็นนักกีฬาต่อสู้ อาจจะต้องเน้นอาหารที่เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกเป็นพิเศษ
  • พรสวรรค์ ซึ่งสามารถเป็นแรงผลักดันให้ก้าวขึ้นสู่สังเวียนระดับโลกอย่าง UFC ได้เร็วกว่า เพราะมีการเรียนรุ้เทคนิคต่าง ๆ ในการต่อสู้ได้ไวจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้

มากกว่าคำว่าชัยชนะคือการเห็นคุณค่าของศิลปะการต่อสู้

คำว่าชัยชนะ และเป็นแชมป์โลกบนสังเวียน UFC เชื่อว่านักกีฬาทุกคนก็ย่อมอยากก้าวมาถึงจุดนี้อย่างแน่นอน แต่ที่มากกว่าชัยชนะ ก็คือ การเห็นคุณค่าของศิลปะการต่อสู้ เนื่องจากทุกศาสตร์การต่อสู้ใน MMA มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่ขึ้นอยู่กับว่านักกีฬาจะใช้ศิลปะการต่อสู้ใดได้ชำนาญกว่า การขึ้นสังเวียนทุกยก เหมือนได้นำศิลปะการต่อสู้ออกไปเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก ดังนั้นนักกีฬาทุกคนควรให้การเคารพศิลปะการต่อสู้ที่ตนเองฝึกฝน รับรองได้ว่าจะสามารถเข้าถึงและฝึกซ้อมได้อย่างเข้าใจจนนำไปใช้ได้อย่างชำนาญแน่นอน

นักกีฬา MMA ทำเงินกันได้มากแค่ไหน?

เงินค่าตัวของนักกีฬา MMA นั้นไม่ได้เท่ากันไปหมดทุกคน มันขึ้นอยู่กับสถิติการสู้ของพวกเขา อายุ สไตล์การต่อสู้ ความนิยม และความถี่ในการชกก็มีผลต่อเงินค่าตัวทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามตัวแปรหนึ่งที่เห็นความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องค่าตอบแทนเหล่านี้คือสังกัดของนักกีฬา สำหรับนักกีฬามืออาชีพของ MMA นั้นค่าตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 1000 ถึง 3 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยจากสถิติค่าตัวเหล่านี้นักกีฬาของ UFC มีค่าตัวเฉลี่ยสูงที่สุด โดยพิจารณาได้จากสปอนเซอร์และการเผยแพร่ออกสื่อเป็นตัวผลักดันให้ค่าตัวนักชกในสังกัดสูงขึ้นตามไปด้วย

เงินค่าตัวนี้มาจากไหนกัน?

โครงสร้างเงินค่าตัวของนักกีฬาขึ้นกับสัญญาและการชกในแต่ละนัดด้วยว่าได้รับกระแสนิยมตอบรับมากน้อยเพียงใด ซึ่งส่วนมากแล้วหากในนัดนั้นสามารถเป็นผู้ชนะได้ก็จะได้รับเงินโบนัสอีกด้วย และเงินโบนัสนี้ก็ขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนของนักชกนั่นเอง เช่นค่าตัว 4 หมื่นดอลลาร์ หากชนะจะได้รับโบนัส 4 หมื่นดอลลาร์เช่นกัน เหมือนที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าค่าตัวนักกีฬานั้นได้มาจากหลายส่วนมีส่วนใดบ้างลองมาดูกัน

ค่าสปอนเซอร์ นักกีฬา MMA มืออาชีพส่วนมากแล้วจะมีสปอนเซอร์ เช่น นักชกสังกัด UFC จะต้องใส่ชุดของ Reebok ในการชกเสมอ เนื่องจากมีการทำสัญญากันไว้ระหว่างบริษัททั้งสอง เพื่อโปรโมทสินค้าด้วย นักกีฬาจะได้รับค่าสปอนเซอร์ด้วย เช่นกัน ค่าสปอนเซอร์ที่ตกลงกันขึ้นกับจำนวนครั้งในการใส่ขึ้นชก รวมถึงการชกในนัดสำคัญ ๆ ราคาก็จะต่างกันไป

โบนัส เงินตอบแทนพิเศษนี้ขึ้นอยู่กับการชกในแต่ละนัด ว่านักชกชกได้น่าสนใจเพียงใด หากเป็นการชกที่ทำได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ค่าตอบแทนส่วนนี้ก็จะสูงตามไปด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยหากในแต่ละครั้งของการชกนักกีฬา MMA จะลุยกันอย่างดุเดือด แต่เงินโบนัสเหล่านี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยตัวเลขให้รู้ทั้งหมด มีหลายกรณีเหมือนกันที่มีการตกลงการจ่ายโบนัสแบบไม่เปิดเผยให้คนอื่นรู้

นักชก MMA ที่ได้ค่าตัวมากกับน้อยมีความแตกต่างกันอย่างไร ?

ตามที่ทราบกันดีว่าค่าตัวของนักชกแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน แตกต่างกันไปตามศักยภาพ แต่หากเราลองมองจากมุมมองของคนดู เราเองจะรู้ได้หรือไม่ว่านักกีฬาแต่ละคนที่มีค่าตัวแตกต่างกันมาก ๆ นั้นจะสังเกตได้อย่างไร? คำตอบคือแทบไม่แตกต่างกันเลย ผลของค่าตัวขึ้นกับผลงานในการชกของนักกีฬาเอง สถิติในการชกจะถูกบันทึกไว้ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้เกิดการตัดสินใจเรื่องการจ่ายค่าตัว จากสถิติพบว่านักกีฬา MMA ที่มีค่าตัวสูงที่สุดนั้นสูงถึง 3 ล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่นักกีฬาที่มีค่าตัวต่ำสุดนั้นได้รับค่าตัวเพียง 1 หมื่นดอลลาร์ต่อปีเท่านั้นเอง

One Championship โอกาสทองของนักสู้เอเชีย เพื่อก้าวสู่สังเวียน MMA ระดับโลก

หลาย ๆ ท่านอาจจะได้มีโอกาสทำความรู้จักกับรายการมวยกรง MMA ระดับโลกอย่าง UFC มาแล้วแต่รู้หรือไม่ว่าในระดับภูมิภาคเอเชียเองก็มีเช่นกัน เพื่อเฟ้นหานักกีฬาต่อสู้หัวใจแกร่งในระดับภูมิภาคแล้วยังถือว่าเป็นโอกาสทองของนักสู้ที่จะก้าวขึ้นสู่สังเวียนใหญ่ต่อไปในอนาคตอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากทั้งนักกีฬาและผู้ชมจำนวนมาก จนได้รับความนิยมให้เป็นทัวร์นาเม้นต์การแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA อันดับ 1 แห่งเอเชียโดยผู้ที่มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งและช่วยสานฝันของนักต่อสู้ให้เป็นจริงในสังเวียน One Championship ก็คือ คุณชาตรี ศิษย์ยอดธง อดีตนักมวยไทยมืออาชีพของไทย ถือว่าเป็นการมอบโอกาสให้กับนักกีฬาหัวใจนักสู้ของไทยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและในขณะเดียวกันก็มอบความสุขให้กับแฟน ๆ กีฬาทั่วโลกอีกด้วย

One Championship สื่อสะท้อนเอกลักษณ์และคุณค่าของนักกีฬาแห่งทวีปเอเชีย

ในยุคปัจจุบันที่สังคมทั่วโลกมีโซเชียลมีเดียและสมาร์ทโฟนเป็นสื่อสำคัญในการติดต่อสื่อสารกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันก็สามารถพูดคุยสนทนากันได้สะดวกขึ้นแบบเรียลไทม์ รายการแข่งขัน MMA อย่าง One Championship จึงสามารถครองใจคนดูได้ทั่วโลกเพราะคนดูสามารถเข้าถึงได้สะดวก จึงไม่น่าแปลกใจที่มีเรตติ้งสูงอยู่ในอันดับต้น ๆ ดังนั้นจึงลงตัวได้กับวัตถุประสงค์หลักของรายการที่ต้องการสร้าง local heros ให้ได้เป็นที่รู้จักเพื่อเป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ กับพวกเขาเหล่านั้นด้วย

สามารถนำเอาคุณค่าของศิลปะการต่อสู้แขนงต่าง ๆ ในเอเชียออกสู่สายตาชาวโลกได้ชมกันซึ่งถือเป็นการ         โปรโมทที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี อาทิ มวยไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนได้รับการยกย่องว่าเป็นการต่อสู้ที่ดีที่สุดแบบแนวตั้ง นอกจากนี้ยังมีศิลปะการต่อสู้แบบผสม คือ คิกบ็อกซิ่ง คาราเต้ กังฟู เทควันโด เลทเว ปล้ำจับล็อกและอื่น ๆ โดยการจัดการแข่งขันนั้นได้เลือกจัดสนามการแข่งขันทั่วทวีปเอเชียและได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ชั้นนำต่าง ๆ มากมาย เพราะในภูมิภาคเอเชียนั้นถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของศิลปะการต่อสู้ที่มีมาอย่างยาวนานดังนั้นรายการ One Championship น่าจะเป็นสื่อกลางที่ดีที่สุดเพื่อสืบสานคุณค่าที่มีอยู่ไม่ให้สูญหายไป

นักกีฬาต่อสู้ของไทยแจ้งเกิดใน One Championship

นักกีฬาต่อสู้ของไทยได้มีโอกาสเข้าไปแจ้งเกิดบนสังเวียน MMA ระดับภูมิภาคเอเชีย One Championship โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีพื้นฐานด้านการต่อสู้มาก่อนนั่นก็คือ มวยไทย จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้อันงดงามอย่างมวยไทยไปในตัว ไม่เพียงแต่ผูชายเท่านั้นทางด้านนักกีฬาต่อสู้ผู้หญิงก็มีเช่นกัน อาทิ ครูรงค์ หรือ เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค, ครูตองวันชิน หรือ ชนนภัทร วิรัชชัย, ริกะ อิชิเกะและ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ หรือ ณัฐวรรณ พานทอง เป็นต้น การแจ้งเกิดที่มาพร้อมกับโอกาสในชีวิตหลาย ๆ ด้าน แล้วยังพร้อมที่จะส่งต่อโอกาสที่ดีให้กับน้อง ๆ รุ่นหลังที่ให้ความสนใจและมุ่งมั่นอยากจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA ต่อไปในอนาคตอีกด้วย

รายการ UFC (Ultimate Fighting Championship) ที่มาของความนิยมในกีฬา MMA

ต้องยอมรับว่าที่มาของความนิยมในกีฬาต่อสู้แบบผสมผสานศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลายอย่าง MMA นั้นมาจากรายการฮิตติดอันดับเทรนด์โลก คือ รายการ UFC (Ultimate Fighting Championship) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นชื่อสมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงแรกของการจัดทัวร์นาเม้นต์นี้ก็เพื่อเป้าหมายของการได้เปรียบเทียบเชิงศิลปะการต่อสู้แขนงต่าง ๆ เท่านั้น แต่กลับได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ รายการอย่างล้นหลามจนกลายเป็นรายการยอดนิยมในเวลาต่อมา

ในส่วนของตัวนักกีฬาเองก็ได้พัฒนาฝีมือจนเกิดเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเองขึ้น ทำให้มีความน่าสนใจที่จะติดตามฝีมือการต่อสู้บนสังเวียนเป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นเกมการแข่งขันที่มีความสนุกสนาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชมที่ชอบในเรื่องความท้าทายและการต่อสู้ที่สุดมัน UFC  จึงเป็นทัวร์นาเม้นที่ตอบโจทย์ได้ตรงใจที่สุด

การต่อสู้ที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบในศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน

การต่อสู้ที่หลากหลายซึ่งนักกีฬานำมาใช้ในการแข่งขัน MMA นั้น ศิลปะการต่อสู้แบบไหนที่จะสามารถเรียกว่าเป็นการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบที่สุด คำถามนี้น่าจะเกิดกับใครหลาย ๆ คน แล้วอาจจะกำลังถกเถียงกันอยู่เมื่อได้ชมเกมการแข่งขัน แต่เมื่อถูกเรียกว่า ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน นั่นคือการเลือกทักษะที่ดีที่สุดของแต่ละแขนงมาใช้ให้ชำนาญ อาทิ การเลือกบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสุ (Brazilian Jiu Jitsu) ก็จะมีท่าไม้ตายอย่าง การรัดคอ (rear naked choke หรือ triangle choke) หักแขน (arm bar) หรือ การใช้ท่าไม้ตายของมวยไทยซึ่งถ้าหากใช้ได้อย่างชำนาญจะกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามเพราะมีหลายท่ามาอย่าง แทงเข่า สะบัดศอก หมัดอันเฉียบคมและเตะตัดจังหวะคู่ต่อสู้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงศิลปะแขนงอื่น ๆ ด้วย

ในความสมบูรณ์แบบที่มี ย่อมต้องผลัดเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เพราะไม่มีใครปฏิเสธความร่วงโรยของสังขารได้ แต่ยังคงกลายเป็นตำนานและต้นแบบอันล้ำค่าอยู่เสมอ ซึ่งนักกีฬาต่อสู้ในรุ่นหลังที่มักจะมีกำลังฮึดสู้และมุมานะมาจากต้นแบบในดวงใจของพวกเขานั่นเอง จนได้เป็นความสมบูรณ์แบบจากรุ่นสู่รุ่น

ไม่ได้โหดร้ายและรุนแรงอย่างที่คิด…แต่แข่งขันภายใต้กติกาแบบสากล

จากภาพที่เคยถูกมองว่าเป็นกีฬาที่โหดร้ายและใช้ความรุนแรงมากเกินไปหรือไม่…ทั้งที่ในความเป็นจริงก็คือการแข่งขันภายใต้กติกาแบบสากล

  • การชั่งน้ำหนักของนักกีฬาต้องเป็นไปตามเกณฑ์ เพื่อแยกรุ่นที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขันทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยมีคณะกรรมการดูแลรับผิดชอบในเรื่องพิกัดรุ่นทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความไม่ได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งกันและกันของตัวนักกีฬาเป็นหลักสำคัญ
  • มีข้อห้ามในการโจมตีตามหลักสากลเพื่อความปลอดภัย อาทิ ห้ามโจมตีบริเวณท้ายทอย หรือ บริเวณใต้เข็มขัด เป็นต้น และบริเวณจุดสำคัญซึ่งอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือทุพพลภาพได้
  • มีกรรมการบนเวที มีโค้ชและพี่เลี้ยงคอยดูแลข้างเวที รวมถึงมีหน่วยแพทย์ประจำเอาไว้ในยามฉุกเฉิน

ดังนั้นจึงไม่ใช่กีฬาที่โหดร้าย แต่เป็นกีฬาต่อสู้อย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะต้องมีบาดเจ็บเป็นเรื่องธรรมดาและมีการเตรียมพร้อมในเรื่องความปลอดภัยที่มีมาตรฐานอย่างแน่นอน

ตำนานของคำว่าจิตวิญญาณแห่งนักสู้ไทยบนสังเวียน MMA ชื่อดัง “One Championship”

สำหรับในวงการศิลปะการต่อสู้ของไทยคงจะมองข้ามชื่อของ ครูรงค์ หรือ เดชดำรง ส. อำนวยศิริโชคไปไม่ได้เลย เพราะว่าได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมาตั้งแต่สมัยที่เป็นแชมป์โลกมวยไทยแล้วได้ผันตัวเองมาฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA และตัวครูรงค์เองก็อยู่ในวงการหมัดมวยมานานถึง 30 กว่าปี อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างในหลาย ๆ ด้าน เมื่อตัวเองได้โอกาสที่ดีในชีวิตก็ไม่เคยคิดลืมบ้านเกิดในต่างจังหวัดเลย เนื่องจากในวัยเด็กครูรงค์เคยลำบากมาก่อน เมื่อมีโอกาสได้ให้สิ่งดี ๆ กับเด็กที่มีความสนใจเรื่องศิลปะการต่อสู้ก็มักจะหยิบยื่นโอกาสนั้นให้อยู่เสมอ

ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาที่ต้องเสียเข็มขัดแชมป์โลกไปก็ไม่เคยย่อท้อเลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่ยังมุ่งมั่นด้วยจิตวิญญาณแห่งนักสู้ อีกทั้งอยากที่จะลองเพิ่มประสบการณ์ในการศึกษาด้านการต่อสู้ที่หลากหลายอย่าง MMA โดยที่ไม่ได้มีเพียงแค่มวยไทยเท่านั้นแต่ยังได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ในด้านอื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสู (Brazilian Jiu-Jitsu หรือ BJJ) ฝึกซ้อมจนร่างกายฟิตจึงอยากลองลงแข่งขันในสังเวียนดังอย่าง One Championship จนประสบความสำเร็จได้เข็มขัดแชมป์ MMA ซึ่งนับว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์โลกในรุ่น สตรอว์เวท (strawweight)

ครูผู้เป็นต้นแบบความมุ่งมั่น บนเส้นทางของความฝันที่ต้องไปให้ถึง

เมื่อได้เข้าไปทำความรู้จักกับวิถีชีวิตครูรงค์แล้วจะพบว่าเส้นทางชีวิตของเข็มขัดแชมป์มวยไทยและแชมป์ MMA นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเมื่อครั้งยังเด็กก็เป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดที่มีฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน แต่เพราะความสนใจในเรื่องหมัดมวยอย่างจริงจัง จึงพยายามหาวิธีให้ได้ฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ จนได้มีโอกาสดี ๆ เข้ามาให้ได้ไล่ตามความฝันของตัวเองแล้วมันก็เป็นจริงมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังได้ช่วยเหลือคนในครอบครัวที่เป็นที่รัก ได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่มีความฝันเหมือนตัวครูรงค์เองในวัยเด็ก

บนเส้นทางของความฝันที่ต้องไปให้ถึง โดยมีสังเวียนมวยเป็นสถานที่สำคัญในการหล่อหลอมครูผู้เป็นต้นแบบของความมุ่งมั่นอย่างครูรงค์ เดชดำรง ส. อำนวยศิริโชค ให้มีความแข็งแกร่งทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เริ่มจากสนามเล็ก ๆ ในตัวจังหวัดและชนะบ้างแพ้บ้าง ด้วยฝีไม้ลายมือในเชิงมวยเข้าตากรรมการและค่ายมวยดังจังได้มีโอกาสเข้ามาสู้ศึกในสังเวียนใหญ่ระดับสากลอย่างสนามมวยลุมพินีในเมืองหลวง จากนั้นก็ได้รับการฝึกซ้อมตามแบบมาตรฐานและก้าวขึ้นสู่แชมป์โลก

ความพ่ายแพ้และความผิดหวัง คือยาชูกำลังของนักสู้

ถึงแม้ว่าครูรงค์จะเป็นถึงอดีตแชมป์โลกมวยไทยและเป็นแชมป์โลก MMA แต่ก็เคยพบเจอกับความพ่ายแพ้และความผิดหวังมาหลายต่อหลายครั้ง ถ้าเป็นบางคนอาจจะยอมถอยไปแล้ว แต่กับผู้ชายท่านนี้ไม่มีคำว่ายอมแพ้ กลับเอาความพ่ายแพ้และความผิดหวังนั้นมาเป็นยาชูกำลังให้มีแรงฮึดสู้ต่อไป ใคร ๆ ก็ต้องยอมรับครูมวยอย่างครูรงค์ ให้เป็นระดับตำนานของคำว่าจิตวิญญาณแห่งนักสู้ไทย

คุณค่าที่มากกว่าความท้าทายของศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานสไตล์มวย MMA

เมื่อพูดถึงเรื่องการชกมวยคงต้องนึกถึงการเตะ ต่อยแล้วยิ่งถ้าเป็นสไตล์การชกมวยแบบผสมผสาน หรือ MMA ที่ไม่จำกัดเรื่องการออกอาวุธเพราะสามารถออกได้ในทุกรูปแบบทั้งการเตะ ต่อย ทุ่ม ล็อกและรัด ซึ่งอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ง่ายกว่า แต่สำหรับท่านที่ชื่นชอบความท้าทายและได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสและเรียนรู้จะสามารถค้นพบคุณค่าในกีฬาประเภทนี้ว่ามีมากกว่าคำว่าท้าทายอย่างแน่นอนด้วยการผสมผสานเอาศิลปะการต่อสู้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น มวยสากล มวยไทย มวยปล้ำ ยูโด คาราเต้ เป็นต้นโดยเป็นการผสมผสานได้อย่างลงตัวออกมาเป็นท่วงท่าการต่อสู้ที่สวยงามและใช้ต่อสู้ได้จริง ๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในปัจจุบันได้รับความนิยมไปทั่วโลก และไม่เพียงแต่ผู้ชายเท่านั้นที่นิยม ผู้หญิงยุคใหม่ก็สามารถสนใจและทำการฝึกฝนจนเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงได้เช่นกันเมื่อได้เข้าไปสัมผัสและทำความรู้จักกับ MMA

5 คุณประโยชน์ที่จะได้รับทั้งร่างกายและจิตใจจากการฝึกมวย MMA

  1. ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานนี้คือการออกกำลังที่ดีประเภทหนึ่ง ผู้ฝึกฝนจะสามารถบริหารร่างกายได้ทุกส่วน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและระบบไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพ เพิ่มการฝึกทักษะอย่างเช่น การทรงตัว การทำงานประสานกันของอวัยวะ ปฏิกิริยาในการตอบโต้ไวและมีความคล่องตัวสูง
  2. สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายที่อยากจะสลายไขมันถ้าเลือกฝึกซ้อมกีฬา MMA รับรองได้เลยว่าระบบเผาผลาญจะดีและเร็วขึ้น เนื่องจากจัดอยู่ในการออกกำลังกายที่มีระดับความเข้มข้นสูง หน้าท้องแบนราบและยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องได้ดี ฟิตแอนด์เฟิร์มในรูปแบบที่มีสุขภาพดีและแข็งแรง
  3. ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานสไตล์มวย MMA สามารถช่วยสร้างสมาธิ และยังช่วยให้มีการตัดสินใจ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี จึงสร้างความเชื่อมั่นได้มากขึ้นด้วย
  4. ส่งเสริมด้านอารมณ์ให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด เนื่องจากในยุคปัจจุบันนี้ ความเครียดเกิดขึ้นได้ง่ายและสลายได้ยาก เนื่องจากสภาพแวดล้อม ถ้าได้ปลดปล่อยในทางที่ถูกต้องโดยหันมาสนใจการเล่นกีฬาก็สามารถสลายความเครียดได้
  5. สามารถสร้างวินัยให้กับตนเองได้ เพราะมวย MMA ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจึงจะเกิดความชำนาญ นอกจากนี้ยังฝึกความอดทน ความพยายามและการตรงต่อเวลาอีกด้วย

ฝึกเพื่อออกกำลังกายก็ได้ หรือ ฝึกเพื่อผันตัวเป็นนักกีฬามวย MMA ก็ดี

เมื่อเห็นคุณค่าของศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA ว่าไม่ได้มีแต่ความท้าทาย อีกทั้งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแต่ยังให้ประโยชน์หลากหลายสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายที่ดีประเภทหนึ่งแล้ว ยังสามารถก้าวขึ้นสู้นักกีฬาบนสังเวียนมวย MMA ได้อีกด้วย เพราะว่าในปัจจุบันมีเวทีหลายระดับทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคและระดับโลกซึ่งพร้อมเปิดรับนักกีฬาที่มีฝีมือภายใต้กติกาที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขัน ในระดับสากล

ยูโด ศิลปะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานของการฝึกซ้อม MMA

Judo หรือ ยูโด เป็นศิลปะการป้องกันตัวอย่างหนึ่งที่ได้บรรจุเป็นกีฬาและมีนักกีฬาให้ความนิยมฝึกหัดเล่นอย่างแพร่หลายทั้งนักกีฬาสมัครเล่นและนักกีฬามืออาชีพ ผู้เล่นจะได้รับประโยชน์อย่างไม่แพ้กีฬาชนิดอื่น ๆ แล้วยังจัดเป็นกีฬาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ซึ่งนอกจากจะอาศัยความแข็งแรงของร่างกายแล้วยังต้องอาศัยสมาธิปฏิภาณไหวพริบของผู้เล่นอีกด้วย ในปัจจุบันนี้ได้ดัดแปลงและปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นทั้งการจู่โจมและการตั้งรับคู่ต่อสู้ จึงสามารถฝึกได้ทุกเพศทุกวัยและยังเป็นหนึ่งในพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอีกด้วย

สำหรับนักกีฬาที่สามารถใช้พื้นฐานของยูโดได้อย่างชำนาญจะสามารถเซฟแรงได้อย่างมากเลยทีเดียว เพราะนี่คือวัตถุประสงค์ของการเล่นยูโด คือ เน้นการบริหารด้านร่างกายและจิตใจไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอดีตนักกีฬายูโดชื่อดังระดับแชมป์โอลิมปิกเกมจึงสามารถมีชื่ออยู่ในแถวหน้าของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA ได้ด้วยเช่นกัน

นักกีฬายูโด เลื่องชื่อกับเข็มขัดแชมป์มวย MMA

นักกีฬายูโด เลื่องชื่อกับเข็มขัดแชมป์มวย MMA ระดับโลกอย่างเวที UFC (Ultimate Fighting Championship) และที่สำคัญสาวที่จัดอันดับว่าสวยเลยทีเดียวอย่าง รอนดา ราวซีย์ (Ronda Jean Rousey ) สาวนักสู้ชาวอเมริกันผู้นี้เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเหรียญจากกีฬายูโดในโอลิมปิกและยังผันตัวมาให้ความสนใจกับกีฬาการต่อสู้ MMA แบบจริงจังจนเป็นผู้หญิงแกร่งไอดอลของสาว ๆ อีกหลายคน เรียกว่าทำให้กระแสของ MMA ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ในช่วงเวลาที่ รอนดา ราวซีย์ได้อยู่ในวงการ MMA สามารถป้องกันแชมป์ได้หลายสมัยและยังได้รับการโหวตให้เป็นนักกีฬายอดเยี่ยมอีกด้วย

เมื่อมีความสามารถจึงนำมาซึ่งชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สะกดสายตาคนดูได้อยู่หมัดทุกครั้งที่ขึ้นสังเวียน นอกเหนือจากชีวิตด้านการเป็นนักกีฬาต่อสู้แล้ว รอนดา ราวซีย์ยังเป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดอีกด้วย ทั้งเก่ง สวยและรวยด้วยกับค่าตัวในที่ได้รับจาก UFC ที่มากเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ถือว่าเป็นความสำเร็จที่หลาย ๆ คนคงปรารถนาจะก้าวขึ้นมาในจุดนี้ ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เธอคนนี้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นไปได้ ถึงแม้ว่าจะได้ผันตัวไปเป็นนักกีฬามวยปล้ำแต่ชื่อใน MMA ก็ยังเป็นตำนานที่น่าจดจำ

บทพิสูจน์ของกีฬายูโดที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวมาเป็น MMA

บทพิสูจน์จากนักกีฬายูโดที่เลือกมากฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน MMA ว่าสามารถทำได้ดีอย่างลงตัวจนได้รับเข็มขัดแชมป์ระดับโลก ทำให้พื้นฐานการเรียนรู้ยูโดด้วยท่าทุ่มที่ถูกวิธีและใช้อย่างชำนาญจะนำมาเป็นจุดเด่นเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของการต่อสู้บนสังเวียนกรงแปดเหลี่ยมได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้การที่นักกีฬาจะเลือกศิลปะการต่อสู้แบบไหนมาสร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวเองก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความชำนาญของแต่ละคนด้วยแต่เชื่อว่าถ้ามีความมุ่งมั่น ขยันฝึกซ้อมและมีวินัยย่อมใกล้คำว่าประสบความสำเร็จได้แน่นอน