จุดกำเนิดกีฬาเก่าแก่ “มวยปล้ำ” ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่ใช่แค่การแสดง

ปัจจุบันนี้กีฬามวยปล้ำถูกพัฒนามาไกลจากยุคแรกเริ่มมากแล้ว หลาย ๆ คนคงรู้จักมวยปล้ำกันเป็นอย่างดีเพราะอาจจะเคยดูผ่านทางโทรทัศน์หรือเคยเห็นในหนังสือ ภาพที่เห็นคือการแข่งขันมวยปล้ำที่มีเวทีสี่เหลี่ยมใหญ่ ๆ อยู่ตรงกลางคล้ายกับสนามมวยและมีการเปิดตัวนักมวยปล้ำด้วยเสียงเพลงสุดอลังการ คนไทยเราส่วนใหญ่มักเข้าใจกีฬามวยปล้ำในรูปแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วทั้งหมดนั้นคือการแสดงโดยใช้ความสามารถของวิชามวยปล้ำเช่น รูปแบบในการต่อสู้ ท่าทางการเคลื่อนไหว เพื่อให้ความบันเทิง มีการสร้างบทบาท มีเนื้อเรื่อง และการกำหนดผลแพ้ชนะไว้ก่อนแล้ว เดิมทีรูปแบบของกีฬามวยปล้ำนั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเพราะกีฬามวยปล้ำนั้นเป็นศาสตร์ที่สามารถใช้ป้องกันตัวและใช้ต่อสู้ได้จริง ๆ

กีฬามวยปล้ำนั้นมีมาอย่างยาวนานและถือว่าเป็นกีฬาที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ในยุคสมัยที่มนุษย์ยังไม่รู้จักประดิษฐ์อาวุธต่าง ๆ ขึ้นมาใช้นั้น ก็มีการฝึกฝนมวยปล้ำเพื่อใช้ป้องกันตัวและต่อสู้กับพวกสัตว์ป่าเวลาออกไปล่าสัตว์ หรือใช้ต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันเอง ต่อมาเมื่อมนุษย์รู้จักการใช้ประโยชน์จากไฟ การทำเกษตรกรรม การเลี้ยงสัตว์ การประดิษฐ์อาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือขึ้นมา มวยปล้ำก็ได้เปลี่ยนบทบาทกลายมาเป็นสิ่งที่ให้ความบันเทิง เป็นการตัดสินและค้นหาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้ชายจะมาแข่งมวยปล้ำกันเพื่อทดสอบความแข็งแรงเพื่อที่จะตัดสินว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าหรือในกลุ่มนั้น ๆ เป็นกระบวนการในการคัดเลือกหัวหน้าเผ่าของมนุษย์ยุคโบราณ ต้นกำเนิดที่แท้จริงของกีฬามวยปล้ำนั้นไม่ได้มีการบันทึกไว้แน่ชัดว่าชนชาติใดริเริ่มขึ้นมาเป็นชนชาติแรก บ้างก็อ้างว่ากีฬามวยปล้ำกำเนิดในอารยธรรมยุคเมโสโปเตเมียโดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพแกะสลักรูปมวยปล้ำมากมายในท่วงท่าต่าง ๆ ที่ผนังของวิหารและสุสาน Beni Hassan ในประเทศอียิปต์ และรูปมวยปล้ำในวิหาร Kyafaje ใกล้กับเมืองแบกแดดประเทศอิรัก ในทวีปเอเชียเราก็มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงว่าชาวมองโกเลียและจีนเป็นชนชาติแรกที่มีการเล่นมวยปล้ำโดยเล่นมาอย่างน้อย ๆ ราว 5,000 ปี มีประวัติศาสตร์มากมายเกี่ยวกับกีฬามวยปล้ำและการจัดการแข่งขันต่าง ๆ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในปี ค.ศ. 1896 โลกของเราได้มีมหกรรมการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิก และแน่นอนว่ากีฬามวยปล้ำย่อมเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่จัดการแข่งขันในโอลิมปิกและมีการแข่งมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้

การเดินทางของกีฬามวยปล้ำนั้นยาวนานหลายพันปี ผ่านเรื่องราวหลายยุคหลายสมัยและไม่รู้จุดกำเนิดที่แน่ชัดของตัวเอง ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเริ่มต้นมาจากจุดไหน จากใคร แต่ที่รู้คือทุกวันนี้ยังมีกีฬามวยปล้ำอยู่บนโลก เพราะฉะนั้นแล้วมันไม่สำคัญว่าต้นกำเนิดของกีฬามวยปล้ำนั้นจะอยู่ตรงไหนของโลกแต่มันสำคัญที่กีฬามวยปล้ำมีมาตั้งแต่สมัยที่มนุษย์ยังไม่มีอารยธรรม ยังเป็นชนเผ่าเร่ร่อน และยังคงมีกีฬามวยปล้ำมาจนถึงปัจจุบันนี้

MMA เริ่มต้นมาจากตรงไหนและเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ในสังคมของโลกยุคปัจจุบันกระแสของการกีฬาและการแข่งขันนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร มีกีฬาชนิดใหม่เกิดขึ้นมาไม่น้อยและจางหายไปก็มากเช่นกัน กีฬา Mixed Martial Art เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ถือว่าแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในยุคปัจจุบัน เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วทั้งโลก สังเกตได้จากจำนวนผู้ชมนับหมื่นคนที่เข้ามาชมการแข่งขันในแต่ละศึก ค่าลิขสิทธิ์มหาศาลในการนำไปถ่ายทอดสด ค่าเหนื่อยของนักกีฬาในการต่อสู้แต่ละครั้ง และจำนวนการแชร์คลิปวิดีโอหรือรูปภาพในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เป็นต้น หลายคนอาจคิดว่ากีฬา MMA เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นมาไม่นานก่อนหน้านี้เพราะว่าพึ่งจะรู้จักและได้รับความนิยมในยุคสมัยนี้ แต่จริง ๆ แล้วการต่อสู้โดยใช้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานมีมานานนับพันปีเลยก็ว่าได้

ในยุคสมัยกรีกโรมันได้มีการจัดแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสานด้วยมือเปล่าอย่างเป็นทางการขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อราว ๆ 600 ปีก่อนคริสตกาลโดยอ้างอิงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เหล่านักสู้ Gladiator ที่หลายคนคงคุ้นหูและเคยได้ยินได้รู้จักกันมาบ้างแล้ว เหล่านักสู้เหล่านั้นได้นำการต่อสู้แบบผสมผสานด้วยมือเปล่าเข้าไปสู้ในสนามต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยนั้นอย่าง Colosseum และเรียกชื่อการต่อสู้นั้นว่า Greek Pankration นั่นถือเป็นจุดกำเนิดของการแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสานบนโลกใบนี้ ต่อมาศิลปะการต่อสู้ได้พัฒนาและแตกแขนงออกมามากมายเช่น มวยสากล มวยปล้ำ ยูโด คาราเต้ มวยไทย และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยการต่อสู้แต่ละแขนงก็มีกฎและกติกาที่แตกต่างกันออกไปทำให้ศิลปะการต่อสู้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง นักกีฬามวยสากลจะมาแข่งขันต่อสู้กับนักกีฬามวยไทยไม่ได้เพราะกฎและกติกาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกีฬาชนิดใดชนิดหนึ่งและการฝึกฝนของนักกีฬาที่แตกต่างกันออกไป แต่ในช่วงยุค 90s หรือราว ๆ ปี ค.ศ. 1990-2000 ได้มีการคิดริเริ่มการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานขึ้นมาอีกครั้งโดยให้ชื่อเรียกว่า MMA หรือ Mixed Martial Art อย่างที่เราเรารู้จักกันในปัจจุบันนี้ มันคือการรวมเอาศิลปะการต่อสู้เกือบทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกในขณะนั้นเข้าไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการเตะ การต่อย กอดรัดฟัดเหวี่ยง หรือการทำให้ยอมแพ้ ในปี ค.ศ. 1993 ได้มีการจัดการแข่งขัน MMA ขึ้นและถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ครั้งแรกโดยใช้ชื่อว่า Ultimate Fighting Championship หรือ UFC ที่เรารู้จักกัน ครั้งนั้นถือว่าเป็นการกำเนิดสมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานขึ้นอย่างเป็นทางการและถ่ายทอดกีฬาชนิดนี้ออกไปในวงกว้างมากขึ้น

ในอดีตยุคสมัยที่กีฬา MMA เพิ่งเริ่มต้น กีฬาชนิดนี้ไม่ได้รับความนิยมและการยอมรับมากเท่าไหร่เนื่องจากผู้คนทั่วไปมองว่าเป็นกีฬาที่ป่าเถื่อน รุนแรง และอันตราย อาจเป็นเพราะกฎกติกาที่ไม่มีอะไรมากนัก แต่ปัจจุบันนี้กีฬา MMA ปรับเปลี่ยนกฎและกติกาให้เหมาะสมและจำกัดท่าโจมตีที่เป็นอันตรายต่อนักกีฬา มีกรรมการที่ได้รับการฝึกอบรมเป็นพิเศษ มีทีมแพทย์และการปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาในสังคมปัจจุบันมากขึ้นจนได้รับการยอมรับและความนิยมมากมายอย่างเช่นทุกวันนี้